ญี่ปุ่น นับยอดผู้ป่วยโควิดผิด อ้างงานหนัก

ญี่ปุ่น นับยอดผู้ป่วยโควิดผิด อ้างงานหนัก

ทางการกรุงโตเกียว ในประเทศ ญี่ปุ่น ออกมายอมรับว่าพวกเขา นับยอดผู้ป่วยโควิดผิด และทำให้ยอดผู้ป่วยหายไปกว่า 800 ราย อ้างงานหนัก เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา เว็ปไซต์ เจแปนไทมส์ ทางการกรุงโตเกียว เมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่นได้ออกมายอมรับว่า มีการนับยอดผู้ป่วยผิดพลาดในช่วงวันที่ 18 พฤศจิกายน ปีที่ผ่านมา ถึงวันที่ 31 มกราคมที่ผ่านมา

ซึ่งจากความผิดพลาดในครั้งนี้ทำให้ยอดผู้ป่วยที่ติดโควิดไม่ได้ถูกบันทึก 838 ราย 

โดยเจ้าหน้าที่แพทย์ได้ระบุว่าความผิดพลาดครั้งนี้เกิดขึ้น เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดในช่วงเวลาดังกล่าวที่รุนแรงขึ้น ทำให้งานของเจ้าหน้าที่เพิ่มขึ้นเช่นกัน ซึ่งบนเว็ปไซต์ระบุว่าเจ้าหน้าที่จะทำการกดปุ่มทุกครั้ง เมื่อพวกเขาได้รับรายงานถึงการค้นพบผู้ป่วยโรคโควิดรายใหม่

โดยนางยูริโกะ โคอิเคะ ผู้ว่ากรุงโตเกียวได้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่าความผิดพลาดครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความบกพร่องของระบบดังกล่าว พร้อมเรียกร้องให้มีการเปลี่ยนแปลงระบบที่สามารถทำให้ประชาชนมั่นใจว่าผู้ป่วยใหม่ทุกรายจะถูกนับอย่างไม่ตกหล่น ปัจจุบันกรุงโตเกียวมียอดผู้ป่วยสะสมมากกว่าแสนราย ขณะที่ประเทศญี่ปุ่นมียอดผู้ป่วยสะสมอย่างน้อยสี่แสนราย

โดยวัคซีน แอสตราเซเนกาเป็นวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ตัวที่ 2 ที่องค์การอนามัยโลก อนุมัติต่อจากวัคซีนของไฟเซอร์ ที่อนุมัติเมื่อช่วงปลายเดือนธันวาคมที่ผ่านมา

เกาหลีใต้ สั่ง ซื้อวัคซีนโควิด เพิ่มสำหรับประชาชนอีก 23 ล้านคน หลังกังวลว่าวัคซีนที่สั่งมาชุดแรกอาจประสบปัญหาการจัดส่งหรือปัญหาด้านคุณภาพ เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ สำนักข่าว ชาแนลนิวส์เอเชีย รายงานว่า ทางการเกาหลีใต้ได้ทำการจัดซื้อวัคซีนต้านโควิดสำหรับประชาชนอีก 23 ล้านคน หลังจากที่ทางการเกิดข้อกังวลถึงการจัดส่งที่ล่าช้าหรือประสิทธิภาพของวัคซีน ซึ่งความกังวลดังกล่าวอาจทำให้จำนวนประชาชนที่ได้รับวัคซีนลดลงในไตรมาสแรกได้

โดยนาย ช็อง เซ กยุน นายกรัฐมนตรีของเกาหลีใต้ ได้ออกมากล่าวว่าพวกเขาได้จัดซื้อวัคซีนโนวาแวกซ์สำหรับประชาชน 20 ล้านคน และ วัคซีนไฟเซอร์ สำหรับประชาชนอีก 3 ล้านคน

ขณะนี้ทางการเกาหลีใต้ได้ทำการจัดซื้อวัคซีนเป็นจำนวนเพียงพอกับประชาชนทั้งประเทศ หรือเป็นจำนวนราวๆ 52 ล้านคน ซึ่งทางการเกาหลีใต้ได้รับวัคซีนจากโครงการโคแวกซ์, ไฟเซอร์, โมเดอร์นา, แอสตราเซเนกา และ จอห์นสันแอนด์จอห์นสัน

ตามกำหนดปัจจุบันทางการเกาหลีใต้จะเริ่มฉีดวัคซีนในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ที่จะถึงนี้ โดยทางการตั้งเป้าว่าจะฉีดวัคซีนให้กับประชาชนในช่วงไตรมาสแรกได้ราวๆ 7 แสนคน ทั้งนี้จำนวนดังกล่าวถือว่าลดลงจากที่ทางการตั้งเป้าเอาไว้ก่อนหน้านี้ ปัจจุบันประเทศเกาหลีใต้มียอดผู้ป่วยสะสมอย่างน้อย 84,000 ราย และมีผู้เสียชีวิตจากเชื้อไวรัสแล้วมากกว่า 1,500 ศพ

อดีตหัวหน้าหน่วยยามฝั่งเกาหลีใต้ พ้นผิด ปม เรือเซวอล จมคร่าชีวิต นร.

ศาลในประเทศเกาหลีใต้ได้ตัดสินให้ อดีตหัวหน้าหน่วยยามฝั่งเกาหลีใต้ พ้นผิดปม เรือเซวอล อัปปางจนเป็นเหตุให้มีนักเรียนเสียชีวิตหลายร้อยศพ เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ สำนักข่าว ชาแนลนิวส์เอเชีย รายงานว่า ศาลกลางกรุงโซล ได้ตัดสินให้ นาย คิม คยอน ซุก อดีตหัวหน้าหน่วยยามฝั่งเกาหลีใต้ ให้ไม่มีความผิด หลังเขาถูกฟ้องฐานละเลยการปฏิบัติหน้าที่จนเป็นเหตุให้นักเรียนและผู้โดยสารกว่า 300 คน เสียชีวิตจากเหตุเรือเฟอร์รีเซวอลล่มเมื่อปี 2557

โดยศาลระบุว่า เป็นเรื่องยากที่จะตัดสินว่าจำเลยละเลยในการปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ พร้อมชี้ว่าผู้ต้องหาได้สั่งอพยพลูกเรือ และถือเป็นการตัดสินใจที่เหมาะสมแล้ว หากเทียบกับข้อมูลที่นาย คิม ได้รับในช่วงเวลาดังกล่าว

ซึ่งนอกจากผู้หารายนี้แล้ว ทางศาลยังได้ตัดสินให้เจ้าหน้าที่หน่วยยามฝั่งเกาหลีใต้อีก 9 คนที่เป็นผู้ต้องหาในข้อกล่าวหาเดียวกันให้พ้นผิด ย้อนกลับไปเมื่อช่วงเดือนเมษายน 2557 เรือเฟอร์รีเซวอลได้อัปปาง ขณะมุ่งหน้าไปยังเกาะเซจู โดยสำนักงานข่าวหลายแห่งระบุว่า นักเรียนที่กำลังเดินทางมาทัศนศึกษาถูกสั่งให้นั่งรออยู่ในเรือ ส่วนกัปตันและผู้ช่วยหลบหนี และนำไปสู่เหตุโศกนาฎกรรมดังกล่าวขึ้น

ซึ่งกัปตันอ้างว่า สาเหตุที่เขาไม่สั่งให้มีการอพยพเนื่องจากกังวลว่า การที่ผู้โดยสารที่ไม่ได้รับการชี้แนะที่เหมาะสมหรือไม่ได้ใส่เสื้อชูชีพ กระโดดลงไปในน้ำที่เย็นจัดและกระแสน้ำเชี่ยวกรากจะเป็นอันตรายถึงชีวิต และยอมรับว่าเขามีส่วนผิดในการตัดสินใจเช่นนั้น ซึ่งศาลได้ตัดสินจำคุกตลอดชีวิตกัปตันเรือดังกล่าว ในข้อหาฆาตกรรม, ละเลยการปฏับัติหน้าที่ และ กระทำการโดยประมาท ส่วนลูกเรือคนอื่นๆถูกตัดสินจำคุกเป็นระยะเวลา 18 เดือน จนไปถึง 12 ปี

ทางการ เมียนมา ได้ทำการส่งจดหมายให้สมาคมสื่อ เตือนห้ามไม่ให้สำนักข่าวเรียกรัฐบาลของ พล.อ. มินอ่องหล่าย ว่า รัฐบาลรัฐประหาร ชี้ผิดจรรยาบรรณ เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ เว็ปไซต์ ฟรอนเทียร์เมียนมา รายงานว่า กระทรวงการสื่อสารเมียนมาได้ส่งข้อความไปหาสมาคมสื่อเมียนมา เตือนสื่อมวลชนไม่ให้เรียกรัฐบาลของพลเอกอาวุโส  มินอ่องหล่าย ว่า รัฐบาลรัฐประหาร พร้อมชี้ว่าเป็นการจรรยาบรรณสื่อ

โดยในข้อความภายในจดหมายระบุว่า “หนังสือพิมพ์บางฉบับ, สื่อมวลชนบางคน และ สื่อบางแห่ง ได้รายงานอย่างไร้จรรยาบรรณ และนำเสนอว่าสภาบริหารแห่งรัฐ เป็นรัฐบาลรัฐประหาร” 

รวมไปถึงเรื่องวัคซีนโควิดที่ไม่มีความแน่ชัดว่าปัจจุบันฉีดวัคซีนให้ประชาชนกี่รายแล้ว ทั้งนี้ทางเกาหลีเพิ่งรับวัคซีนโควิดจากประเทศจีนเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านๆมา

แนะนำ : ดูดวงไพ่ยิปซี | รีวิวที่พัก | รีวิวคาเฟ่ | วิธีลดน้ำหนัก | รีวิวอนิเมะ ญี่ปุ่น