‘บิ๊กโจ๊ก’ ล่าตัว ‘หยูซินฉี’ นักธุรกิจจีนเทา ฉ้อโกง-หมิ่นเบื้องสูง

‘บิ๊กโจ๊ก’ ล่าตัว ‘หยูซินฉี’ นักธุรกิจจีนเทา ฉ้อโกง-หมิ่นเบื้องสูง

พ.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล สั่งล่าตัว หยูซินฉี นักธุรกิจจีน ฉ้อโกง หมิ่นเบื้องสูง เชื่อมีคนไทยสนับสนุน มั่นใจได้ตัวในวันนี้ พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สั่งให้ชุดปฏิบัติการพิเศษเข้าตรวจสอบหมู่บ้านย่านสายไหม เพื่อควบคุมตัว หยู ซิน ฉี ซึ่งเป็นนักธุรกิจชาวจีนที่ นาย รังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายและระบุว่าเป็นตัวละครสำคัญในธุรกิจจีนเทา ตั้งตัวเป็นประธานสมาคมมณฑลซ่านซีสมาคมแห่งประเทศไทย เป็นสมาคมที่ไม่มีการจดทะเบียน และยังเปิดโรงเรียนสอนธุรกิจเถื่อนขึ้นมา เพื่อให้กลุ่มจีนเทาขอวีซ่านักเรียน หรือ อาสาสมัครของสมาคม

ผู้สื่อข่าวระบุว่า บรรยากาศที่บ้านพักของนาย หยูซินฉี ในหมู่บ้านแห่งหนึ่งย่านสายไหม 

ลักษณะเป็นบ้านเดี่ยวสองชั้น มีเนื้อที่ประมาณ 80 ตารางวา โดยมีรถยนต์ส่วนบุคคลจอดอยู่ 2 คัน ได้มีตำรวจตรวจคนเข้าเมือง กองกำกับการ 1 และ 2 สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เฝ้าสังเกตการณ์และวางกำลังโดยรอบ ซึ่งมีข้อมูลว่านาย หยูซินฉี ยังพักอาศัยอยู่ในบ้าน

บิ๊กโจ๊ก กล่าวว่า นาย หยู ซิน ฉี เป็นกลุ่มทุนจีนสีเทา มีพฤติกรรมชอบแอบอ้างเข้าไปทำความรู้จักสนิทสนมกับกลุ่มคนที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักของคนในสังคมไทย เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับคนจีนด้วยกัน โดยมักจะนำภาพที่ถ่ายคู่กับคนสำคัญของไทย อย่างนายกรัฐมนตรี และราชวงศ์ของไทย พร้อมยอมรับว่าการที่ หยู ซิน ฉี เข้ามามีบทบาทในประเทศไทย เชื่อว่ามีคนไทยให้การสนับสนุน แต่เป็นคนระดับไหนต้องรอการสืบสวนสอบสวนอีกครั้งหนึ่ง แต่ยืนยืนว่าเครือข่าย หยู ซิน ฉี เป็นคนละเครือข่ายกับนายตู้ห่าว

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เชื่อว่าจะได้ตัว หยู ซิน ฉี ในวันนี้ จากจะนั้นส่งไปดำเนินคดีที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เพื่อดำเนินคดีความผิดที่เกิดขึ้นในประเทศไทยก่อน จากนั้นก็จะขึ้นบัญชีดำห้ามเข้าประเทศ พร้อมกับผลักดันกลับไปยังประเทศต้นทาง ซึ่งขณะนี้ได้ประสานกับตำรวจตรวจคนเข้าเมือง เตรียมที่จะเพิกถอนวีซ่าของ นาย หยู ซิน ฉี

ชัชชาติ นำคณะผู้บริหารกรุงเทพ ถวายพระพรเจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา ให้ทรงหายจากพระอาการประชวรและมีพระพลานามัยสมบูรณ์แข็งแรง นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นำคณะบริหารกรุงเทพมหานคร เดินทางไปยังชั้น 1 อาคารภูมิสิริมังคลานุสรณ์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย เพื่อร่วมถวายพระพร สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ให้ทรงหายจากพระอาการประชวรและมีพระพลานามัยสมบูรณ์แข็งแรง และยังได้ถวายแจกันดอกไม้ด้วย

นอกจากนี้ นายวิรัตน์ มีนชัยนันท์ ประธานสภากรุงเทพมหานคร ก็พร้อมด้วย นายอำนาจ ปานเผือก รองประธานสภากรุงเทพมหานคร คนที่ 2 นางสาวศศิธร ประสิทธิ์พรอุดม นางสาวเมธาวี ธารดำรงค์ สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) พร้อมข้าราชการกรุงเทพมหานคร เข้าถวายแจกันดอกไม้ เบื้องหน้าพระฉายาลักษณ์ พร้อมลงนามถวายพระพร สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ให้ทรงหายจากพระอาการประชวร

สำหรับประชาชนที่อยากร่วมถวายพระพร สภากาชาดไทยได้เปิดให้ประชาชนร่วมลงนามถวายพระพร ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปเวลา 08.00-16.00 น. ณ ชั้น 1 อาคารภูมิสิริมังคลานุสรณ์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ไม่เว้นวันหยุดราชการ

‘ประยุทธ์’ เซ็นแต่งตั้ง ‘ดิสทัต โหตระกิตย์’ นั่งที่ปรึกษานายกฯ

ประยุทธ์ เซ็นแต่งตั้งให้ ดิสทัต โหตระกิตย์ อดีตเลขาธิการนายก นั่งเก้าอี้ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี มีผลแล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป อนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แต่งตั้ง นายดิสทัต โหตระกิตย์ เป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี

ตามที่สำนักนายกรัฐมนตรีได้มีคำสั่งที่ 162/2562 ลงวันที่ 18 กรกฎาคม 2562 แต่งตั้ง นายดิสทัต โหตระกิตย์ ให้ดำรงตำแหน่งข้าราชการการเมือง ตำแหน่งเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ 16 กรกฎาคม 2562 เป็นต้นไปนั้น เนื่องจาก นายดิสทัต โหตระกิตย์ ได้ขอลาออกจากตำแหน่ง ตั้งแต่วันที่ 16 ธันวาคม 2565 ฉะนั้น อาศัยอำนาจตามมาตรา 10 (2) แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการการเมือง พ.ศ. 2535 จึงให้นายดิสทัต โหตระกิตย์ ข้าราชการการเมือง ตำแหน่งเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ออกจากตำแหน่งเนื่องจากลาออก

เพื่อให้การบริหารราชการแผ่นดินและการขับเคลื่อนงานของรัฐบาลเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 11 (6) แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 นายกรัฐมนตรีจึงแต่งตั้ง นายดิสทัต โหตระกิตย์ เป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี เพื่อทำหน้าที่ในการให้คำปรึกษาและพิจารณาเสนอความเห็นหรือข้อเสนอแนะต่าง ๆ ตามที่นายกรัฐมนตรีมอบหมาย ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 16 ธันวาคม พ.ศ.2565 เป็นต้นไป

StemBioSys, Inc. ซึ่งเป็นบริษัทเอกชน ด้านชีวการแพทย์ใน ซานอันโตนิโอผลิตและพัฒนานวัตกรรมเทคโนโลยีสเต็มเซลล์ขั้นสูงเพื่อตอบสนองคำมั่นสัญญาของยาฟื้นฟูในตลาดโลกที่พุ่งสูงขึ้น แพลตฟอร์มเทคโนโลยีที่ได้รับการจดสิทธิบัตรและเป็นกรรมสิทธิ์ของบริษัท ซึ่งได้รับใบอนุญาตจากUniversity of Texas System สามารถเอาชนะอุปสรรคสำคัญในการสร้างวิธีการรักษาด้วยสเต็มเซลล์ที่มีประโยชน์ทางคลินิก StemBioSys ทำการตลาดผลิตภัณฑ์ของตนไปยังชุมชนการวิจัยทั่วโลกภายใต้ชื่อแบรนด์ CELLvo ™

เกมส์ออนไลน์แนะนำ >>> เซ็กซี่บาคาร่า ไฮโลออนไลน์